คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการศัลยกรรมเต้านม

ดูเนื้อหาทั้งหมด

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าป่วยและไม่สามารถกลืนยาได้?

การทานยาร่วมกับอาหารและน้ำ จะช่วยให้สามารถกลืนยาได้ในระหว่างการพักฟื้นหลังการเสริมหน้าอก
หากไม่สามารถกลืนยาได้ ให้แจ้งศัลยแพทย์เพื่อติดต่อกับ PPSI ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนยาให้

ควรพูดคุยกับศัลยแพทย์ ว่าจะสามารถกลับมาออกกำลังกายได้เมื่อใดหลังจากการเสริมหน้าอก คำแนะนำสำหรับ แต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ซึ่งแต่โดยปกติแล้วจะต้องรออย่างน้อย 2 สัปดาห์ แม้ว่าจะรู้สึกสบายดีแต่ไม่ได้หายสนิท การเคลื่อนไหวมากเกินไป และเร็วเกินไปอาจทำให้แผลหายช้าลง ดังนั้นไม่ควรยกของหนัก ก้มตัว หรือทำกิจกรรม ที่ต้องใช้แรงมากเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังการเสริมหน้าอก

สำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ เต้านมเทียมจะอยู่สูงเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ หลังการผ่าตัด จากนั้นเต้านมจะอยู่ในตำแหน่ง ที่ปกติมากขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ระยะเวลาที่เต้านมเทียมจะลดต่ำลงนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ ขนาดของเต้านมเทียม ขนาดเต้านมก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก ลักษณะผิวของเต้านมเทียม ตำแหน่งการใส่ เต้านมเทียม ความตึงของกล้ามเนื้อ และการนวดเต้านม หากเต้านมเทียมถูกใส่ไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก เต้านมเทียมจะ ลดต่ำลงมาช้ากว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใส่เต้านมเทียมไว้เหนือกล้ามเนื้อ หากมีเต้านมที่เล็กมาก และได้รับการเสริม หน้าอกด้วยเต้านมเทียมขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ จะใช้เวลานานกว่า เนื่องจากความตึงของผิวหนังและในบางครั้ง เต้านมเทียมข้างหนึ่งอาจลดต่ำลงก่อนอีกข้างหนึ่ง

ศัลยแพทย์บางท่านแนะนำให้ผู้ป่วยดันเต้านมเทียมลง หรือนวดทันทีหลังการผ่าตัด เพื่อให้เต้านมเทียมลดต่ำลงเร็วขึ้น หากมีปัญหา ศัลยแพทย์อาจให้สวมแถบรัดยางยืดไว้ที่ด้านบนของหน้าอก เพื่อช่วยดันเต้านมเทียมให้ลดต่ำลง หาก เต้านมเทียมยังไม่ลดต่ำลงภายใน 6-9 เดือน อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดแก้ไข ดังนั้นโปรดปรึกษาศัลยแพทย์

เมื่อมีการผ่าตัดเสริมหน้าอก ผิวหนังจะถูกยืดออกเพื่อรองรับเต้านมเทียม การยืดออกของผิวหนังนี้ทำให้รู้สึกคล้าย ถูกแดดเผา และหน้าอกเป็นรอยแดง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในระหว่างกระบวนการหายของแผล โปรดสอบถามศัลยแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับผิวของผู้ป่วย ในระหว่างการพักฟื้นหลังการเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก

ความมันเงา เป็นผลมาจากการที่ผิวยืดออก ซึ่งอาการนี้จะหายไปเมื่อผิวเริ่มคลายตัว

การนิ่มของเต้านมจะขึ้นอยู่กับความตึงของกล้ามเนื้อ และตำแหน่งของเต้านมเทียม โดยเต้านมจะตึงเป็นระยะหนึ่ง เนื่องจากการบวมหลังการผ่าตัดและหากใช้เต้านมเทียมที่มีผิวขรุขระ อาจให้รู้สึกตึงมากกว่าเต้านมเทียมชนิดผิวเรียบ

หลังการผ่าตัด เต้านมจะตึงขึ้น ซึ่งบางคนอาจคิดว่าเต้านมของตนตึงเกินไป เมื่อหน้าอกตึงขึ้นเพียงเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการผ่าตัด ในขณะที่บางคนอาจต้องการให้หน้าอกตึงและอวบอิ่มที่บริเวณด้านบนของเต้านม ดังนั้นจึงไม่มีคำตอบที่ตายตัวสำหรับทุกคน

ขึ้นอยู่กับงานของแต่ละท่าน ประเภทของแผลผ่าตัด ตำแหน่งการใส่เต้านมเทียม และความเร็วในการหายของแผล หากทำงานนั่งโต๊ะ สามารถกลับไปทำงานได้เร็วกว่างานที่ต้องใช้ร่างกายมาก นอกจากนี้หากได้รับการผ่าตัดยกกระชับ หน้าอก จะต้องพักฟื้นนานขึ้น

การทำผิวสีแทนที่เร็วเกินไปหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้น อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำ ซึ่งเป็นภาวะที่ผิวหนัง มีสีเข้มกว่าผิวหนังโดยรอบ และขอแนะนำว่าอย่าให้แผลผ่าตัดถูกแสงแดดโดยตรง เป็นเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี หลังการ ผ่าตัด และต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี แผลเป็นจึงจะคงที่ ดังนั้นควรปกปิดแผลเป็นในช่วงเวลานี้! ผิวหนังที่บริเวณ เต้านมจะยืดออก และหายก่อนที่แผลเป็นจะหาย ดังนั้น หากต้องการทำผิวสีแทน ให้ปิดแผลเป็นของด้วยเทป อย่าทา เพียงครีมกันแดด

อย่าตกใจหากได้ยินเสียงโครกคราก หรือมีเสียงลั่นเอี๊ยด ๆ หรือเสียงแตกมาจากเต้านม เสียงเหล่านี้เป็นผลมาจาก การสะสมของเหลว หรือการมีฟองอากาศภายในช่องที่ใส่เต้านมเทียม หรือจากการจมตัวของเต้านมเทียม อาการ นี้จะหายไปภายใน 2-3 สัปดาห์ และแม้ว่าเสียงเหล่านี้อาจทำให้รู้สึกรำคาญ แต่ก็เป็นเรื่องปกติหลังการเสริมหน้าอก

หน้าอกอาจมีรูปร่างแปลก ๆ เนื่องจากผิวหนังถูกยืดออก แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะลักษณะเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นแค่เพียง ชั่วคราว หากเต้านมมีรูปร่างคล้ายตอร์ปิโด แสดงว่าเต้านมเทียมอาจยังไม่ลดต่ำลง และครึ่งล่างของเต้านมแต่ละข้าง ยังคงตึงอยู่ ทำให้หน้าอกอยู่สูง และแข็งเป็นรูปกรวย ในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก อาจคิดว่าเต้านม ใหญ่เกินไป เล็กเกินไป กลมเกินไป ยังกลมไม่พอ ดูเป็นเหลี่ยมเกินไป สูงเกินไป ต่ำเกินไป ดูน่าเกลียดเกินไป เป็นต้น แต่ไม่นานนักความรู้สึกนี้จะหายไป หากเต้านมฟันเทียมถูกใส่ไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก อาจต้องใช้เวลาสักพักเพื่อให้กล้าม เนื้อคลายตัวและหากถนัดขวา เต้านมด้านขวาอาจลดต่ำลงช้ากว่าเต้านมด้านซ้าย

ใจเย็น ๆ เพราะในช่วงหลายสัปดาห์หลังการผ่าตัด หน้าอกจะบวมและยังไม่ชินกับมัน เต้านมเทียมอาจอยู่ค่อนข้างสูง ให้รอจนกว่าอาการบวมจะลดลง ก่อนที่จะตัดสินใจว่ามันใหญ่เกินไปหรือไม่ และ/หรือต้องการผ่าตัดแก้ไขหรือไม่

จะต้องหายดีแล้ว ถึงจะเริ่มวิ่งออกกำลังกายได้ เนื่องจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การวิ่งจ็อกกิ้ง กระโดดเชือก บาสเกตบอล และการขี่ม้า จะทำให้เต้านมเคลื่อนไหวขึ้น และลงมากเกินไป และการกระโดดโดยไม่มีการพยุงเต้านม ที่ดีพออาจทำให้ผิวหนัง เอ็น และเนื้อเยื่อยืดออกได้ และทำให้เกิดการหย่อนคล้อยได้ ดังนั้น โปรดปรึกษาศัลยแพทย์ เกี่ยวกับการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากและเมื่อเริ่มกลับไปออกกำลังกาย ให้ใส่สปอร์ตบราที่มีคุณภาพดีหรือใส่บรา รัดกล้ามเนื้อ

เพศสัมพันธ์ก็ถือเป็นการออกกำลังกายเช่นกัน และไม่ควรทำกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น อย่างมาก หรือทำให้เต้านมเคลื่อนไหวมากเกินไป เป็นเวลา 1 หรือ 2 สัปดาห์หลังการเสริมหน้าอก นอกจากนี้ ยาปฏิชีวนะที่ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้ออาจส่งผลต่อยาคุมกำเนิดได้ ดังนั้นควรใช้วิธีการอื่นในการป้องกันการตั้งครรภ์ ในขณะที่ใช้ยาปฏิชีวนะ

ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในภูเก็ต เพื่ออยู่ใกล้กับศัลยแพทย์ในสัปดาห์แรกของการพักฟื้นหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ในกรณี ที่มีภาวะแทรกซ้อนและจะต้องพักอยู่ใกล้ ๆ เพื่อพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล

ไม่ เช่นเดียวกับอาการบวม อาการปวด และรอยแดง ผู้ป่วยจะต้องนอนหงายหรือนอนตะแคงแค่ชั่วคราวเท่านั้น โดยควรนอนหงาย ให้ศีรษะยกสูงในช่วง 5-10 วันแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายตัวและอาการบวม และสามารถนอนตะแคงหรือนอนคว่ำได้หลังผ่านไป 10 วัน

หลังการเสริมหน้าอก การรับความรู้สึกที่ผิวหนังจะกลับมาในผู้ป่วยเกือบทุกรายอาการชานั้นเกิดจากการที่เส้นประสาท ในผิวหนังได้รับแรงกดจากอาการบวมและการยืดออกและการตึงของผิวหนังที่บริเวณเหนือเต้านมเทียม ซึ่งแรงกดนี้ อาจทำให้บริเวณนั้นชาชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น เส้นประสาทรอบ ๆ แผลอาจถูกตัด และอาจใช้เวลานานในการรักษา ในขณะที่เต้านมคลายตัว และอาการบวมลดลง จะสังเกตได้ว่าการรับความรู้สึกกลับมาทีละน้อย ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 1 ปี

หลังจากถอดผ้าพันแผลแล้ว จะต้องสวมบราพยุงหรือผ้ารัดหน้าอก (ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของศัลยแพทย์) อย่าสวม บราแบบมีโครง หรือบราดันทรง หรือเสื้อผ้ารัดรูปเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือนหลังการผ่าตัด (อาจแตกต่างกันไป ตามคำแนะนำของศัลยแพทย์) เนื่องจากบราดันทรงและเสื้อผ้ารัดรูปทำให้เต้านมเทียมเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ผิด ปกติได้

ผู้หญิงแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังการตั้งครรภ์ เต้านมของคุณจะขยายใหญ่ขึ้น และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามปกติที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ โดยระดับของ
การขยายตัวของเต้านมจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน และขนาดของเต้านมเทียมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบ

น้ำหนักของเต้านมเทียมจะแตกต่างกันไปตามขนาดและปริมาตรของสารที่บรรจุ เช่น เต้านมเทียมขนาด 250 ซีซี จะบรรจุเจล 250 ซีซี ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 250 กรัม

สามารถเปลี่ยนวัสดุปิดแผลกันน้ำแผ่นได้โดยไม่ทำให้มีของเหลวไหลออกจากบริเวณแผลผ่าตัดอย่างผิดปกติ และจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผลสะอาดและแห้งอยู่เสมอ หากมีหนองไหลออกมาและวัสดุปิดแผลเปียกชุ่ม โปรดติดต่อ PPSI เพื่อรับการประเมินและรักษา

อาการปวดเป็นเรื่องปกติหลังการผ่าตัด เนื่องจากเนื้อเยื่อและเส้นประสาทได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามหากมี อาการปวดมาก (คะแนนความปวด 7-10 จากเต็ม 10) และยาที่แพทย์สั่งให้ใช้ไม่ได้ผล โปรดติดต่อ PPSI เพื่อขอ คำแนะนำ

ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดโอปิออยด์ และยาปฏิชีวนะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ โปรดสังเกตอาการเป็นเวลา 6-12 ชั่วโมง และหากอาการดังกล่าวยังไม่ทุเลา โปรดติดต่อ PPSI เพื่อขอเปลี่ยนยา

ศัลยแพทย์จะจัดไหมชนิดไม่ละลายที่อยู่ภายนอกทั้งหมดออกให้ในระหว่างพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล หากมี ไหมเย็บแผลเหลืออยู่ ไหมดังกล่าวน่าจะเป็นไหมละลาย ซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่แนะนำให้ติดต่อกับคลินิกในพื้นที่เพื่อ ตัดไหมออกหรือตัดแต่งโดยแพทย์ เนื่องจากอาจทำให้แผลผ่าตัดหายช้าลง